25.8.57

วัดปลายนา

ระยะนี้ ทางวัดกำลังจัดเตรียมพื้นที่เพื่อการปรับปรุงและขยายลานธรรม

ด้วยกำลังของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติธรรม และอาสาสมัคร

เรียนเชิญมีส่วนร่วมได้ที่วัดค่ะ



พระอาจารย์โกศีล ปริปุณฺโณ
บ้านอารีย์
วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗

....ได้ปฏิบัติติดต่อกัน

ถ้าเราสังเกต บางครั้งก็จะพบเห็น  รู้ด้วยตนเอง บางครั้งก็ยังขึ้น ๆ  ลงๆ  บางครั้งก็สม่ำเสมอ โดยเฉพาะเวลาเราเดินนาน ๆ เดินจงกรมนาน ๆ บางครั้งจะรู้สึกทั่วตัว บางครั้งก็จะกวัดแกว่ง แต่มันก็พัฒนาของมันไปเรื่อย ๆ จนมีความชำนาญ มีความชัดเจน ที่จะอยู่กับตนเองและมันก็รู้จักตนเอง  บางคนงง ว่าให้รู้จักตนเอง รู้จักยังไง สมัยอาตมาได้ยินหลวงพ่อเทียนพูดใหม่ ๆ ก็งง ๆ เหมือนกันนะ รู้จักตนเอง

ถ้าเราสังเกตเอาตามพื้นฐานของเราก็คือเราหิวเราก็รู้จักว่าเราหิว  เราอิ่มเราก็รู้จักว่าอิ่ม เรากระหายเรารู้ เราร้อนเราเย็น เรารู้ อันนี้โดยทั่ว ๆ ไปนะ  แต่พอลึกลงไปกว่านั้นก็คือเห็นชัดถึงความสุข ความทุกข์  ความพอใจ ความไม่พอใจ บางครั้งมันก็วกวนอยู่ ความพยาบาท ความอิจฉา ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความหวั่นไหว ความกลัว ความชอบ ความไม่ชอบ บางครั้งก็ความอึดอัด คับแค้น สะเทือนใจ หรือไม่รื่นเริงแจ่มใส หรือขมขื่น ท้อแท้  หรือบางครั้งก็มีปิติ มีความสุข มีกำลังใจ นะ.. อันนี้คือการรู้จักตนเองลึกลงไป เราก็จะเข้าใจชีวิต ชีวิต ความเป็นธรรมชาติอันหนึ่ง  บางครั้งก็ไม่ได้ดั่งที่เราปรารถนาก็เป็นทุกข์เศร้าโศกเสียใจ  บางครั้งพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักก็มีความกระเทือนใจเหมือนกัน นะ 
ถ้าเรารู้จักตนเองก็รู้จักอาการกิริยาของจิตใจเราที่มันเป็นไป  มันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป  เรารู้จักอุปนิสัย ความเคยชิน  ว่าไปแล้วก็คือกิเลส สันดานของเรานั่นเอง นะ  บางครั้งมันเป็นอย่างไร เราก็จะรู้มันละเอียดลงไป  เราก็จะรู้ข้อปฏิบัติที่จะละ ที่จะเปลี่ยนแปลงมัน


เมื่อเราเจริญสติไป ภาวนาไปเรื่อย ๆ มันก็จะมีวิธีปรับเปลี่ยนแก้ไขมัน  แต่บางทีรายละเอียดนั้นมันเป็นความคิดความจำ  แต่พอเราทำลงไปจริง ๆ แล้วมันก็เป็นหนึ่งเดียว ความรู้สึกตัวหรือสติสัมปชัญญะ เมื่อเราทำลงไปแล้วมันก็จะไปชำระ ปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ในตัวเรา ในกายในใจของเรา ทัศนะของเรา ความคิดความเห็นของเรา ก็จะปรับเปลี่ยน เมื่อเรามีสติสัมปชัญญะเพียงพอ เพราะฉะนั้น ความเห็นต่าง ๆ ของเราก็เปลี่ยน  โดยเฉพาะเราชอบสิ่งใดเราก็อยากให้สิ่งนั้นมันเที่ยง มันถาวร  อันไหนไม่ชอบก็อยากให้ไม่เทียง อยากให้เปลี่ยน  ในความเป็นจริงทั้งสิ่งที่เราชอบและเราไม่ชอบก็เป็นอนิจจัง มันก็เปลี่ยนแปลงของมัน มันก็เป็นความทุกข์ ไปยึดไปติดมัน มันก็หาตัวตนที่แท้จริงไม่ได้ มันก็เป็นลักษณะสามอย่าง มันก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน เราจึงเข้าไปยึดเข้าไปเกาะเกี่ยวมันไม่ได้ เราก็ต้องปล่อยไปเป็นไปตามธรรมชาติของมัน เราเป็นผู้ดู ดูจนชัดเจน ความทุกข์ในใจก็จะลดลง ที่สุดก็จะเป็นคนที่ปล่อยวางได้ง่าย...หาตัวตนทีแทจรงไมไดเปเปนลกษณ